“My Lovely Liar” จบลงไปแล้ว ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่จะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป มีซีรีส์แนวผู้หญิงที่ทรงพลังมากมาย ทั้งในความหมายที่แท้จริงและแฟนตาซี มีตั้งแต่แนวลึกลับในยุคปัจจุบันไปจนถึงแนวย้อนยุคแฟนตาซี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านักแสดงนำชายจะไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่ากับนักแสดงนำหญิง และนี่คือบทสรุปของฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ รวมถึงผู้ที่อยู่เคียงข้างเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
1. River Where the Moon Rises
นักฆ่า เจ้าหญิงที่ถูกโค่นล้ม และนักสู้ผู้แข็งแกร่ง พยองกัง (คิมโซฮยอน) คือหญิงสาวที่มีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการแก้แค้น เมื่อถูกครอบครัวของเธอทรยศ เธอจึงสร้างเส้นทางของตัวเองในโลกนี้ด้วยต้นทุนอันแสนสาหัส เธอลอบสังหารกษัตริย์ผู้เป็นพ่อที่ทอดทิ้งเธอ แต่ทุกอย่างกลับผิดเพี้ยนไปเมื่อแผนการของเธอล้มเหลว เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องหนีไปยังภูเขา และนั่นคือจุดที่เธอบังเอิญเจอ อนดัล (นาอินอู)
บางคนมองว่าอนดัลเป็นคนโง่เขลา แต่เขาเป็นเพียงแค่คนที่เห็นคุณค่าของความสงบสุขและให้ความสำคัญกับทุกชีวิต ทั้งมนุษย์และสัตว์ เขาอาศัยอยู่กับผู้คนของเขา ชนเผ่าซุนโนะ โดยซ่อนตัวอยู่ในภูเขา เพราะกษัตริย์ทรงสั่งให้สังหารชนเผ่าหลังจากเชื่อว่าภรรยาของเขานอกใจไปกับผู้นำชนเผ่า ซึ่งเป็นพ่อของอนดัล ชนเผ่าจำนวนมากสละชีวิตเพื่อรักษาชีวิตของพยองกังน้อยให้ปลอดภัย และเธอก็ใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกผิดจากการเสียสละของพวกเขา เธอไม่รู้ว่าการพบกันของเธอกับอนดัลนับเป็นโชคดีหรือไม่ แต่พยองกังก็สาบานว่าจะตอบแทนพวกเขาและแก้ไขโกกูรยอด้วยวิธีเดียวที่เธอคิดได้ นั่นคือรับตำแหน่งที่ถูกต้องของเธอในฐานะรัชทายาท แต่การต่อสู้ของพยองกังก็พบกับอุปสรรคอยู่ทุกเสมอ และเมื่อเธอและอนดัล ชายผู้ไม่เคยต้องการสงคราม ถูกดึงดูดเข้าหากัน ราคาที่พยองกังต้องจ่ายเพื่ออำนาจที่เธอต้องการอาจสูงกว่าที่เธอจะรับผิดชอบมันได้
นี่เป็นบทบาทในฐานะนักแสดงนำเรื่องแรกของนาอินอู และเขาก็จัดการมันได้ดี ทั้งสองคนได้ศึกษาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครสองคนที่แตกต่างกันมากและวิธีการที่พวกเขาจะดำเนินไปด้วยกัน โครงเรื่องอาจไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดเสมอไป แต่การแสดงที่ดีของอีจีฮุนและชเวยูฮวาทำให้เรื่องนี้ดูสนุก
2. “Alchemy of Souls”
พบกับฮวังมินฮยอนกับบทบาทในละครเรื่องที่สองของเขา นักซู (โกยุนจอง) คือนักฆ่าที่น่าเกรงขามที่สุดในดินแดนแดโฮ เธอจัดการใครก็ตามที่ขวางทางเธอได้อย่างง่ายดาย และมีระดับความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่าโรงเรียนเวทมนตร์แห่งเดียวของ แดโฮ นั่นก็คือ ซองริม เธอเชี่ยวชาญศิลปะต้องห้ามมากที่สุด คือ การสับเปลี่ยนวิญญาณ ซึ่งผู้จำแลงสามารถสลับวิญญาณกับอีกร่างหนึ่งได้ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอถูกสังหารโดยคนที่ซองริม นักซูก็ได้รับการฝึกฝนและเลี้ยงดูโดยชอนบูกวาน กลุ่มนักฆ่าที่มีความผูกพันกับบัลลังก์ที่แย่งชิงอำนาจกับซองริม แต่ในภารกิจระดับสูง นักซูถูกบังคับให้รับร่างของสาวใช้ชื่อมูด็อก (จองโซมิน) และจบลงด้วยการทำงานให้กับทายาทของตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดของซองริม นั่นก็คือ จางอุค (อีแจอุค) และเขาได้ล่วงรู้ความลับของเธอ
จางอุคใช้ชีวิตของเขาอย่างตัวตลก ซึ่งเกิดภายใต้กลุ่มที่มีความขัดแย้งลึกลับ พ่อของเขาไม่เพียงแต่ทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเป็นเด็กเท่านั้น แต่ยังผนึกพลังของจางอุคไว้เพื่อที่เขาจะไม่สามารถแสดงเวทมนตร์ได้ เขายังกำหนดว่าไม่มีใครที่ได้รับอนุญาตให้เปิดผนึกพลังงานของจางอุค ด้วยเหตุนี้ จางอุคจึงได้แต่เฝ้าดูเพื่อนของเขาและตระกูลขุนนางอื่นๆ ที่เชี่ยวชาญทักษะต่างๆ แต่ตัวเขากลับไม่สามารถทำเองได้ นักซูไม่ได้ผูกพันกับกฎของซองริม เธอจึงสามารถเปิดผนึกได้ จางอุคไม่สนใจว่าเธอจะเป็นนักฆ่าหรือศัตรูของซองริม แต่เขาต้องการเรียนรู้จากเธอ และนักซูก็มองเห็นโอกาสที่จะทำลายซองริม เมื่อทั้งสองร่วมมือกันแล้วก็ไม่มีใครอาจหยุดยั้งได้ แต่กลับมีนาฬิกาจับเวลาอยู่ในร่างของนักซู เธอจึงไม่สามารถรักษาร่างใหม่ไว้ได้อีกต่อไป และเธอกับจางอุคก็เป็นส่วนหนึ่งของโชคชะตาอันมืดมนที่แสนยาวนาน ที่กำลังจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า
จากผู้เขียนบท “Hotel Del Luna” นี่เป็นซีรีส์แฟนตาซียอดฮิตอีกเรื่องหนึ่งที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างนักซูและจางอุคเมื่อพวกเขาเริ่มตกหลุมรักกันนั้นเป็นเรื่องสนุก และตัวละครรองทำให้เกิดการแสดงที่น่าติดตามซึ่งจะทำให้ดวงตาของคุณจับจ้องไปที่หน้าจอ รวมถึงนักแสดงที่มีเคมีเข้ากันอย่างดีมาก
3. “Sell Your Haunted House”
มีวิธีหาเงินที่อยู่นอกเหนือจากโลกมนุษย์ และฮงจีอา (จางนารา) ก็ได้ฝึกฝนวิธีใดวิธีหนึ่งนั้น เธอเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่เชี่ยวชาญในการขายที่อยู่อาศัยที่มีผีสิง เธอค่อนข้างจะเย็นชาเมื่อเธอทำพิธีไล่ผี และเธอก็ใช้ชีวิตเหมือนก้อนน้ำแข็ง ซึ่งภายนอกอาจดูแข็งกระด้าง แต่จะอบอุ่นขึ้นเมื่อคุณได้รู้จักตัวตนของเธอ
โออินบอม (จองยงฮวา) เป็นศิลปินที่แกล้งทำเป็นเห็นผีและถ่ายภาพเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เขาเป็นคนควบคุมมัน แต่ทุกอย่างกลับแย่ลงเมื่ออสังหาริมทรัพย์ที่เขาค้นหากลับมีผีจริงๆ ซึ่งเป็นผีที่ฮงจีอาพยายามจะไล่ เธอพยายามพาโออินบอมออกไปและไม่มีเวลาที่จะโน้มน้าวเขาว่าผีมีจริง ฮงจีอาค้นพบว่าอินบอมมีพลังจิตอันทรงพลัง ซึ่งเป็นความสามารถที่สามารถเพิ่มพลังของฮงจีอาให้มากขึ้นได้ในระหว่างการไล่ผี และนั่นอาจช่วยเธอขับไล่ผีได้ เธออาศัยอยู่กับแม่ของเธอมาเกือบ 20 ปี แต่โออินบอมจะเต็มใจก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความตายนี้หรือไม่? และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อการตายของแม่ของจีอาเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมลุงของอินบอม?
4. “I Hear Your Voice”
ซีรีส์เกาหลีคลาสสิกที่มีตัวเอกมีพลังในการตรวจจับการโกหกใน “I Hear Your Voice” แต่พลังของเขาทำงานแตกต่างออกไปเล็กน้อย พัคซูฮา (อีจงซอก) เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่มีวุฒิภาวะเกินกว่าเพื่อนของเขา เป็นเพราะพัคซูฮามีความสามารถพิเศษในการอ่านใจผู้คนเมื่อเขามองตาคนเหล่านั้น ซึ่งเป็นความสามารถที่เขาได้รับจากการที่เขาเห็นการฆาตกรรมพ่อเมื่อ 10 ปีที่แล้วด้วยน้ำมือของมินจุงกุก (จองอุงอิน) ในตอนแรกการฆาตกรรมถูกมองว่าเป็นอุบัติเหตุจนกระทั่งจางฮเยซอง (คิมโซฮยอนในวัยเยาว์ในบทบาทที่น่าจดจำ) เด็กสาวมัธยมปลายในตอนนั้นก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญแม้ว่ามินจุงกุกจะข่มขู่พยานในการเป็นพยานให้กับการฆาตกรรม มินจุงกุกถูกขังไว้ และสั่งสมความรู้สึกอยากแก้แค้นของเขาเอาไว้ ในขณะที่พัคซูฮาในวัยหนุ่มสาบานว่าจะปกป้องจางฮเยซองจากการแก้แค้นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของมินจุงกุก
เมื่อใกล้ถึงวันพ้นโทษของมินจุงกุก พัคซูฮายังคงค้นหาจางฮเยซองต่อไป ประเด็นก็คือจางฮเยซอง (อีโบยอง) ไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนที่เขาจดจำได้อีกต่อไป พัคซูฮาอาจมีพลังพิเศษ แต่จางฮเยซองมีพลังในโลกแห่งความเป็นจริง เธอพบว่าพัคซูฮาไร้เดียงสาจนทนไม่ไหวและเกลียดตัวเองที่ให้การเป็นพยานเมื่อหลายปีก่อนเพราะมันทำให้เธอตกเป็นเป้าหมาย พัคซูฮายังคงรักษาคำสาบานของเขาที่จะปกป้องเธอ แต่มินจุงกุกมีเวลาถึง 10 ปีในการวางแผนแก้แค้น และไม่มีใครที่จะสามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้
ทุกตารางนิ้วของการแสดงนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ตั้งแต่โครงเรื่อง ตัวละครเสริม ไปจนถึงทุกคนที่ได้รับบทตัวละครที่น่าพึงพอใจ และแรงจูงใจของผู้ร้าย นอกจากนี้ “I Hear Your Voice” ยังเพิ่มเติมด้านความโรแมนติกได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยเคมีที่น่าทึ่งของอีโบยองและอีจงซอก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทำไมพัคซูฮาและจางฮเยซองถึงเข้ากันได้ดี และนี่ทำให้อีโบยองได้รับรางวัลแดซังจากการแสดงที่น่าทึ่งของเธอในบทบาทจางฮเยซองอีกด้วย
ที่มา soompi