ตั้งแต่ความรักที่เกิดขึ้นช้า ๆ ไปจนถึงเรื่องเล่าในชีวิตประจำวัน ซีรีส์เกาหลีได้สร้างหลากหลายแนวที่มีประโยชน์ ทั้งประเด็นทางการเมือง, เศรษฐกิจ, และสังคมซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมโดยตรง แต่พล็อตที่เห็นได้บ่อย ๆ อีกหนึ่งพล็อตคือเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพจิต ซีรีส์เหล่านั้นได้สร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญและอ่อนไหว เน้นการต่อสู้ของตัวละครที่แตกต่างแต่เผชิญปัญหาสุขภาพจิตเหมือนกัน เมื่อตัวละครเข้าถึงการยอมรับและรักษาปัญหาเฉพาะของตน สิ่งนี้ก็ช่วยให้ผู้ชมมีพลังด้วยเช่นกัน การตระหนักว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวก็เป็นการเพิ่มพลัง และนี่คือซีรีส์ 9 เรื่องที่พูดถึงสุขภาพจิต
“Our Blues”
หนึ่งในตอนของซีรีส์เรื่องนี้คือเรื่องของมินซอนอา (รับบทโดยชินมินอา) คุณแม่ยังสาวที่ suffer กับโรคซึมเศร้า โดยซีรีส์เน้นให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าของเธอที่มีมาในก่อนหน้านี้อย่างรวบรัด, เบื่อการทำงานบ้านที่เป็นชีวิตประจำวัน, ตัดขาดจากปัจจุบันและความสับสนที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเสียสิทธิ์การดูแลลูก มินซอนอาต้องเข้ารับการบำบัด ระหว่างนั้นเธอได้รับการช่วยเหลือจาก salesman การท่องเที่ยวที่หยาบคายชื่ออีดงซุก (รับบทโดยอีบยองฮอน) ซึ่งตัวเขาเองก็แตกหักกับแม่หลังจากเสียน้องสาวไป
จากความสัมพันธ์ที่แตกแยกของดงซุกกับแม่ไปจนถึงความรู้สึกผิดของยองอก (รับบทโดยฮันจีมิน) ที่ทิ้งพี่สาวของเธอ “Our Blues” เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นใจอันแสนหวานของชาวเมืองเล็ก ๆ ที่อาศัยอยู่บนเกาเชจู เต็มไปด้วยชีวิต, ความรัก และทุก ๆ อย่าง ทั้งรักที่เคยลืมเลือนหวนมาให้นึกถึงอีกครั้งไปจนถึงความรักแบบหนุ่มสาวที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ บทสรุปของซีรีส์คือ “แด่ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอให้มีความสุข” การแสดงที่ยอดเยี่ยม, วิวที่สวยงาม, และเรื่องราวที่อบอุ่นใจทำให้เรื่องนี้ควรค่าแก่การดู นอกจากนี้เพลงประกอบซีรีส์ก็มีแต่เพลงดี ๆ ซึ่งรวมถึง “With You” ที่เป็นการ collab กับระหว่างจีมิน BTS และฮาซองอุน
“My Mister”
อีจีอัน (รับบทโดยไอยู) หยิงสาวที่มีหนี้สินติดตัว เธอทำงาน part-time หลายอย่างดูแลคุณยายที่กำลังป่วย ชีวิตจีอันมีแต่ความเศร้า เธอรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรให้รอคอย และความเศร้าก็ถาโถมเข้ามาที่เธออย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอได้พบกับพัคดงฮุน (รับบทโดยอีซอนกยุน) พนักงานออฟฟิศที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นและมองโลกในแง่ดี เขากลายเป็นเพื่อน, นักปรัชญา, คนคอยชี้นำเธอและช่วยให้เธอมองด้านดีของชีวิตและพร้อมให้กำลังใจจีอันเสมอ
“My Mister” เป็นผลงานชิ้นเอก เรื่องราวที่เต็มไปด้วยการปลอบโยนและเป็นการแสดงที่สร้างสรรค์อย่างยอดเยี่ยมซึ่งควรค่าแก่การดู รวมถึงการแสดงที่แสนจะสมจริงของไอยูและอีซอนกยุน
“It’s Okay, That’s Love”
จางแจยอล (รับบทโดยโจอินซอง) นักเขียนนิยายลึกลับซึ่งขายดีที่สุดและเป็นดีเจด้วย เขาขี้หงุดหงิด, บางครั้งก็ขี้เล่น, บางครั้งก็อวดดี เพราะ suffer จากโรคย้ำคิดย้ำทำที่เกิดจากอดีตที่บอบช้ำทางจิตใจ จีแฮซู (รับบทโดยกงฮโยจิน) จิตแพทย์ที่เข้าใจผู้อื่น เธอมีแพสชั่นกับหน้าที่การงานของเธอมาก แต่ในเรื่องของความรักเธอกลับไม่เคยมองมันในแง่ดีเลยจุดเริ่มต้นแจยอลและแฮซูอาจไม่ดีนัก พวกเขาเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายใส่กัน แต่พอได้ใกล้ชิดกันสุดท้ายก็ตกหลุมรัก จนแฮซูตระหนักได้ว่าปัญหาสุขภาพจิตของแจยอลนั้นร้ายแรงกว่าที่คิดไว้ นอกจากนี้ยังมีพัคซูกวัง (รับบทโดยอีกวังซู) ซึ่งเป็นโรค Tourette’s Syndrome และโจดงมิน (รับบทโดยซองดงอิล) ที่อยู่บ้านใกล้แฮซู ร่วมกัน พวกเขาเหล่านี้ก็จะร่วมลงเรือลำเดียวกันไปกับการรักษาและเสริมกำลังใจให้กันและกัน
การเฝ้าดูจางแจยอลต่อสู้กับปัญหาทางจิตทำให้ผู้ชมเกิดความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้ที่อาจกำลังรับมือกับปัญหาคล้าย ๆ กัน และจีแฮซูในฐานะจิตแพทย์ที่ช่วยรักษาเขาก็น่ารักมาก การแสดงที่เปิดกว้างเกี่ยวกับสุขภาพจิตในซีรีส์เรื่องนี้ช่วยให้ผู้ชมตระหนักได้ว่าเป็นเรื่องดีที่จะยอมรับสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่และขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
“It’s Okay to Be Not Okay”
มุนคังแท (รับบทโดยคิมซูฮยอน) เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลจิตเวชอุทิศตนเพื่อดูแลคนไข้ โลกของเขาหมุนรอบความสุขของพี่ชายอย่างซังแท (รับบทโดยโอจองเซ) ซังแทเป็นนักวาดรูปที่มีแพสชั่นแต่เป็นออทิสติก สองพี่น้องมีช่วงวัยเด็กที่ยากลำบากเพราะซังแทยังคง suffer จากการที่แม่เสียไปและความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้กระตุ้นให้ซังแทอาละวาดได้ทุกเมื่อ ส่วนมุนยอง (รับบทโดยซอเยจี) นักเขียนหนังสือเด็กที่ขายดีที่สุด แต่เธอกลับไร้ความรู้สึก ทำผิดก็ไม่ขอโทษ ไม่ทำตัวให้สมกับเป็นคนของประชาชน มุนยองมีปัญหาติดอยู่ในความทรงจำในวัยเด็กอันมืดมิด เมื่อมุนยองตกหลุมรักคังแท เธอก็พยายามเอาชนะเขาด้วยความอวดดี โดยการหลอกซังแทให้วาดรูปหนังสือของเธอ เมื่อเวลาผ่านไปทั้ง 3 คนก็กลายเป็นครอบครัวเดียวกันแบบที่ต่างคนต่างไม่เคยมีครอบครัวแบบนี้มาก่อน
“It’s Okay to Be Not Okay” พูดถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตที่ค่อนข้างอ่อนไหว โดยเฉพาะบาดแผลในวัยเด็กที่ไม่ได้รับการดูแล ทิ้งเป็นบาดแผลลึกและแผลเป็นทางอารมณ์ บุคลิกที่แตกต่างกันของตัวละครเหล่านี้ที่อดีตได้หล่อหลอมปัจจุบันของพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังเริ่มต้นการเดินทางที่มีความหวังจากการเยียวยาทางอารมณ์ ซอเยจีที่แสดงเป็นโกมุนยองแสนก้าวร้าวและซับซ้อนได้อย่างสมจริง คิมซูฮยอนที่เป็นคังแทแสนอ่อนโยนแต่ต้องอดทนกับทุกอย่าง และโอจองเซที่เก่งเหมือนซังแทแสดงความอ่อนไหวทางอารมณ์ออกมาได้อย่างดี
“Just Between Lovers”
ความฝันและความหวังหายบไปในพริบตาเมื่อโลกของพวกเขาพังลง “Just Between Lovers” บอกเล่าเรื่องราวของคนสองคนที่ทุกข์ทรมานจากความเครียดหลังจากเจอเหตุการร์ที่บอบช้ำทางจิตใจ อีคังดู (รับบทโดยอีจุนโฮ) ฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอล แต่อุบัติเหตุในสถานที่ห้างสรรพสินค้าพรากพ่อของเขาไปส่วนคังดูได้รับบาดเจ็บสาหัส คังดูจึงกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด ต้องรับมือกับความวิตกกังวล, หนี้สิน และอนาคตที่ดูเหมือนจะสิ้นหวัง เขาได้พบกับฮามุนซู (รับบทโดยวอนจินอา) ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเดียวกัน มุนซูรู้สึกผิดและเชื่อว่าเธอทำลายสิ่งต่าง ๆ ของคนอื่น ทั้งคู่กลับผูกพันกันจากความเศร้าที่มีร่วมกันและความเศร้านั้นก็ยังคงอยู่ รวมถึงการต่อสู้ดิ้นรน ทั้งคู่ให้กำลังใจ, ฮีล และแชร์ความเศร้าของกันและกัน
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นความรักที่เกิดขึ้นช้า ๆ ตัวเอกต่างเติมเต็มส่วนที่ขาดหายของกันและกัน อีจุนดฮแสดงเป็นอีคังดูที่แสนซับซ้อนและเต็มไปด้วยความทุกข์
“Kill Me, Heal Me”
โดฮยอน (รับบทโดยจีซอง) ทายาทของบริษัทขนาดใหญ่แต่ก็ถูกนินทาไปทั่วบริษัท โดฮยอนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต เขาทุกข์ทรมานจากความผิดปกติของตัวตนที่เขาสร้างขึ้นมา อีก 6 ตัวตน ซึ่งแต่ละคนจะปรากฏตัวขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้น ๆ โดฮยอนสร้างบุคลิกเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องอดีตที่บอบช้ำทางจิตใจและการถูกทำร้ายในวัยเด็กซึ่งยังคงหลอกหลอนเขาอยู่จนถึงตอนนี้ วันหนึ่งรีจิน (รับบทโดยฮวังจองอึม) หมอจิตวิทยาวิ่งชนกับชินเซกีซึ่งเป็นร็อคสตาร์ที่น่ารำคาญ จนต่อมารีจินก็ได้รู้ว่านั่นคือหนึ่งในบุคลิกของโดฮยอนและเอกับโดฮยอนก็เคยมีความทรงจำในอดีตร่วมกันแม้ว่าความทรงจำของเธอจะหายไป ปัญหาที่ฝังลึกจากความทรงจำเหล่านั้นเป็นปัญหาสำคัญต่อสุขภาพจิตของโดฮยอน
“Kill Me, Heal Me” เป็นซีรีส์แนวจิตวิทยาที่เขียนบทอย่างพิถีพิถัน ช่วงเวลาที่ดูตึงเครียดนั้นปผสมไปกับความตลก ความสามารถในการเป็นนักแสดงของจีซองก็ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดกับบทของโดฮยอนที่มีหลายบุคลิก ส่วนพัคซอจุนรับบทเป็นรีอน น้องชายของรีจินเป็นนักเขียนนิยายสืบสวนยิ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สนุกยิ่งขึ้น
“Clean with Passion For Now”
จางซอนกยอล (รับบทโดยยุนคยุนซัง) ชายหนุ่มที่ฉลาดและประสบความสำเร็จ แต่เขา suffer กับโรคกลัวเชื้อโรคอย่างรุนแรง เขากังวลเรื่องความสะอาดและฝุ่นมากไม่เว้นแม้แต่ที่บริษัทของเขา จนโอซล (รับบทโดยคิมยูจอง) สาวที่ไม่ห่วงเรื่องความสะอาดได้เข้ามาทำงานในบริษัทของซอนกยอล เธอเป็นคนขยันและสดใส ไม่ติดหรูและไม่ใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ และก็ช่วยซอนกยอลให้เผชิญหน้ากับโรคกลัวเชื้อโรค
“Clean with Passion for Now” สร้างจากเว็บตูนในชื่อเดียวกัน เป็นซีรีส์เนื้อหาสนุก ๆ ยุนคยุนซังกับบท CEO ที่หวาดระแวงและหุนหันพลันแล่น คิมยูจองกับบทโอซลที่กระดากอายแต่ก็ใช้ชีวิตต่อไป ซีรีส์เรื่องนี้แสดงให้เห็นความกลัวอย่างอ่อนไหวของซอนกยอลซึ่งเป็นสภาพจิตใจที่อ่อนแอและเป็นอุปสรรคต่อความสามารถของเขาในการใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงความสัมพันธ์เรื่องความรัก เขาได้รับกำลังใจจากโอซลช่วยให้เขาต่อสู้กับความกลัวและปัญหาต่าง ๆ ของตัวเอง ซีรีส์เรื่องนี้ควรค่าแก่การดูแน่นอน
“Hyde, Jekyll, Me”
ซอจิน (รับบทโดยฮยอนบิน) CEO สวนสนุกที่ร่ำรวย, หยิ่งยโสและใจร้ายทุกข์ทรมานจากความผิดปกติของตัวตนที่เขาสร้างขึ้นมา อีกหนึ่งตัวตนที่เขาสร้างขึ้นมาคือโรบินซึ่งเป็นคนขี้เล่นและใจดี เมื่อผู้จัดการคณะละครสัตว์คนใหม่อย่างฮานา (รับบทโดยฮันจีมิน) ปรากฎตัว สิ่งต่าง ๆ ก็ซับซ้อนขึ้น เธอกับซอจินต่างหลบหน้ากันตั้งแต่แรกพบ ส่วนโรบินที่ยิ้มแย้มและมีเสน่ห์ก็ตกฮานาไปเต็ม ๆ ต่อมาโรบินก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ฮานาจึงรู้ว่าโซจินกำลังต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตที่ร้ายแรงซึ่งเกิดจากปมในวัยเด็ก
ซีรีส์เต็มไปด้วยความสงสัยและความลึกลับแนวจิตวิทยา ตัวละครถูกเขียนขึ้นมาอย่างดีและการแสดงที่เน้นถึงแง่มุมความดีและความชั่วที่มีอยู่ในตัวมนุษย์แต่ละคน, การปฏิบัติตนกับผู้อื่นอย่างมีเมตตา รวมถึงฮยอนบินที่เป็นทั้งซอจินและโรบินได้ออกมาอย่างเพอร์เฟ็กต์
“Fix You”
อีชีจุน (รับบทโดยชินฮากยุน) จิตแพทย์ที่มีวิธีการใหม่ ๆ เพื่อผู้ป่วยของเขา เขาเป็นห่วงผู้ป่วยจากใจจริงแม้หลายคนจะมองว่าวิธีของเขาแปลก แต่เขาก็สามารถช่วยคนไข้ให้รับมือกับปัญหาความบอบช้ำทางจิตใจและปัญหาสุขภาพจิตของตนเองได้ ฮันอูจู (รับบทโดยจองโซมิน) นักแสดงหญิงที่มีอาการตื่นตระหนกและอารมณ์แปรปรวน เมื่อทั้งคู่เจอกันชีจุนได้รักษาอูจูในวิธีใหม่เพื่อให้เธอหายดี เขารักษาเธอด้วยความอดทนและทุ่มเท ชีจุนจึงช่วยให้อูจูก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้
“Fix You” แสดงให้เห็นว่าการหาที่ปรึกษาและนักบำบัดที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยจัดการกับปัญหาของพวกเขาได้ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นและสร้างแรงบันดาลใจเป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ไม่ควรพลาด