รีวิว A Killer Paradox – เมื่อความชั่วถูกพิพากษา ด้วยน้ำมือของคนธรรมดา

You are currently viewing รีวิว A Killer Paradox – เมื่อความชั่วถูกพิพากษา ด้วยน้ำมือของคนธรรมดา

รีวิว A Killer Paradox หน้ากากยุติธรรม- ถ้าพูดถึงซีรีส์ฆาตกรโรคจิต หรือที่เราเรียกกันว่าตัวละครไซโคพาธ หลายคนน่าจะนึกถึงซีรีส์เรื่อง Mouse ที่มีเนื้อหาเข้มข้น และมีปมเรื่องค่อนข้างซับซ้อนเกี่ยวกับตัวละครหลักที่เกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณนักฆ่า แต่สำหรับซีรีส์เรื่อง A Killer Paradox หรือชื่อไทย “หน้ากากยุติธรรม” นำแสดงโดย ชเวอูชิก, ซนซอกกู และ อีจีฮุน ตัวละครหลักอย่าง อีทัง ไม่ได้เป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่เป็นผู้สังหารฆาตกรต่อเนื่อง ที่ไม่เชื่อมั่นในระบบยุติธรรมอันหละหลวม ที่ไม่สามารถจับตัวคนชั่วมาลงโทษได้ แต่เขาสามารถทำได้

ซีรีส์เริ่มต้นเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละครหลักอย่าง “อีทัง” รับบทโดย ชเวอูชิก ที่ใช้ชีวิตในฐานะพนักงานร้านสะดวกซื้อหน้าตาธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษกว่าคนทั่วไป แต่หลังจากคืนโชคร้ายวันหนึ่ง ที่เขาบังเอิญเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของคนที่ตัวเองก็ไม่รู้จักมาก่อน ทำให้การป้องกันตัวเองของเขา กลายเป็นการก่อคดีฆาตกรรมโดยไม่ตั้งใจ งานนี้จากเรื่องเล็ก เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อคนที่ตายดันมีประวัติเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ที่สำนักงานตำรวจกำลังต้องการตัวอย่างมาก นับจากวันนั้น อีทัง จึงเริ่มค้นพบว่า ร่างกายของเขามีความสามารถพิเศษ ในการแยกแยะคนชั่วได้จากพนักงานร้านสะดวกซื้อธรรมดา อีทัง ได้กลายมาเป็น “ศาลเตี้ย” ที่เชื่อว่าตัวเองมีหน้าที่ในการลงโทษคนชั่ว ส่วนฝ่ายตำรวจที่สืบสวนคดีตามหลังการก่อเหตุเย้ยกฎหมายบ้านเมืองของ อีทัง ก็ส่งนายตำรวจมือดีอย่าง “จางนันกัม” รับบทโดย ซนซอกกู มาตามรอย “ศาลเตี้ย” คนนี้เพื่อจับกุมตัวไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้

รีวิว A Killer Paradox ในประเด็นแรกที่อยากพูดถึง คือ โทนเรื่องของ A Killer Paradox ถือว่าเป็นผลงานที่มีลายเซ็นของผู้กำกับ อีชางฮี จากซีรีส์สุดดาร์คอย่าง Stranger From Hell ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานภาพ หรือการจัดแสงในเรื่อง ล้วนเต็มไปด้วยความลึกลับ เหมาะสมกับแนวทางของซีรีส์ที่มีทั้งความจริง และมโนภาพของตัวละครผสมกันไปมา จริง ๆ ต้องบอกว่า ในช่วงแรกการเดินเรื่องของซีรีส์ทำได้ดีมาก เพราะเสน่ห์ของตัวละครแนวไซโคพาธ คือ ความฉลาดในการพรางตัวให้กลมกลืนไปกับคนทั่วไปในสังคม ถึงแม้ว่า อีทัง จะไม่ใช่ตัวละครแบบนั้นในตอนแรก แต่การที่ซีรีส์เลือกจะให้ข้อมูลเวลาเกิดคดีฆาตกรรม ว่าหลักฐานในที่เกิดเหตุมักจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย บ่งบอกถึงความชำนาญของผู้ก่อเหตุ ทำให้ตัวละครอย่าง อีทัง ดูมีความลึกลับ และน่ากลัวมากขึ้น แต่ในช่วงกลางเรื่อง เมื่อจุดคลี่คลายมาถึงเร็วเกินไป ความลึกลับของ อีทัง ก็ดูจะยิ่งน้อยลง ถึงแม้ว่าในเรื่อง อีทัง จะดูเหมือนมีพลังพิเศษในการแยกแยะคนชั่วออกจากคนดี แต่จุดเด่นนั้นก็ถูกกลบด้วย ปมในอดีตของ จางนันกัม ที่ซีรีส์พาเราไปโฟกัสมากขึ้นในช่วงท้ายของซีรีส์

สำหรับพาร์ทของตัวละครหลักอีกตัวอย่าง “จางนันกัม” นายตำรวจสายเข้มที่เป็นคนพบเบาะแสของ อีทัง เป็นคนแรก นอกจากจะเป็นเหมือนกับคู่ปรับในเรื่องที่ทำให้ซีรีส์เข้มข้นแล้ว การเดินทางเข้าสู่อาชีพตำรวจของเขายังมีปมที่น่าสนใจ เกี่ยวกับเรื่องพ่อของตัวเองด้วย ซึ่งหากจะกล่าวโดยสรุป ชีวิตของ นันกัม ถูกหล่อหลอมมาด้วยความรุนแรงจากพ่อที่เป็นตำรวจเลว เขาไม่เคยเข้าใจเลยว่า ทำไมถึงถูกพ่อตะคอกใส่ตลอด ทำไมพ่อถึงไม่เคยบอกรักเขาเลย จนกระทั่ง ซงชน รับบทโดย อีฮีจุน อดีตนายตำรวจที่หมกมุ่นอยู่กับการตามหาตัว อีทัง หนึ่งในตัวละครลึกลับของซีรีส์ ยอมเล่าความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับพ่อให้ นัมกัน ฟัง พร้อมกับเปิดเผยความจริงในอดีตที่ผ่านมาว่า พ่อที่เขามองว่าเป็นนายตำรวจเคร่งกฎระเบียบ แท้จริงแล้วเป็นคนแบบไหน เคยทำร้ายอะไรตัวเขาในอดีตเอาไว้บ้าง

รีวิว A Killer Paradox โดยภาพรวมอาจจะไม่ใข่ซีรีส์ที่ดูแบบรวดเดียวจบได้ขนาดนั้น เพราะความเข้มข้นในการเดินเรื่องช่วงแรก กับช่วงหลังค่อนข้างต่างกัน แต่ในด้านความสนุก และการถ่ายทอดอารมณ์ระดับลึกของตัวละครซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ใครที่ชอบซีรีส์แนวสืบสวน สอบสวน ผสมไปกับความระทึกขวัญ A Killer Paradox คือซีรีส์ที่เก็บใว้ในลิสต์ได้เลย

รับชมซีรีส์เรื่อง A Killer Paradox ได้ที่ Netflix

Leave a Reply