คิมโกอึน (Kim Go Eun) เผยสิ่งที่เธอ “น้อยใจที่สุด” ต่อ พัคจีฮยอน (Park Ji Hyun) ในผลงาน You and Everything Else

You are currently viewing คิมโกอึน (Kim Go Eun) เผยสิ่งที่เธอ “น้อยใจที่สุด” ต่อ พัคจีฮยอน (Park Ji Hyun) ในผลงาน You and Everything Else

เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา คิมโกอึน (Kim Go Eun) และพัคจีฮยอน (Park Ji Hyun) ได้ร่วมงานแถลงข่าวที่โรงแรม Ambassador Seoul Pullman ในกรุงโซล เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดการถ่ายทำซีรีส์ออริจินัลเรื่องใหม่ของ Netflix You and Everything Else

ทั้งสองนักแสดงต่างเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความตื่นเต้นที่จะได้แบ่งปันเรื่องราวส่วนตัว รวมถึงโปรโมตซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวมิตรภาพยาวนานกว่า 30 ปีซึ่งเป็นแกนหลักของเรื่อง

คิมโกอึนได้อธิบายถึงตัวละครของเธอว่าอยู่ระหว่างความชื่นชมและความน้อยใจ ดังที่เห็นในตัวอย่างซีรีส์ ความสัมพันธ์ระหว่าง “อึนจุง” และ “ซังยอน” เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 11 ปี และค่อยๆ พัฒนาไปพร้อมกับอารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงเมื่อเติบโตขึ้น

คิมโกอึน ผู้รับบท “อึนจุง” กล่าวว่า “ตอนที่ได้รับการเสนอให้เล่นเรื่องนี้ ฉันอ่านตอนที่ตัวละครยังเป็นวัยรุ่น และพอตอนดำเนินไป ตัวละครก็เติบโตเข้าสู่วัยยี่สิบ แม้มันจะเป็นเรื่องราวที่ดูเรียบง่าย แต่ฉันกลับรู้สึกอยากติดตามตอนต่อไปทันที กระบวนการที่ค่อยๆ เติมเต็มความลึกและมิตินั้นมันทำให้หัวใจของฉันสั่นไหวจริง ๆ”

เมื่อถูกถามว่าการแสดงที่ต้องครอบคลุมหลายช่วงอายุอาจยากหรือไม่ ทั้งคิมโกอึนและพัคจีฮยอนต่างหัวเราะและยอมรับ แต่ก็แบ่งปันมุมมองถึงวิธีเอาชนะความท้าทายนี้ คิมโกอึนเผยว่า “ฉันกังวลกับการต้องแสดงเป็นตัวละครวัย 20 อีกครั้ง ฉันคิดถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนระหว่างอายุ 20 ถึง 30 ถึงแม้ใบหน้าอาจยังคล้ายเดิม แต่บรรยากาศรอบตัวคนเรามันไม่เหมือนกัน ฉันพยายามแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น”

ด้านพัคจีฮยอนกล่าวว่า “สิ่งต่าง ๆ อย่างอาชีพหรือสถานการณ์ในชีวิตก็เปลี่ยนไปด้วย เราจึงทำงานร่วมกับทีมสไตลิ่งเพื่อให้ภาพลักษณ์ดูโตขึ้นเช่นกัน”

ผู้กำกับโชยองมิน ซึ่งมีบุคลิกขี้อายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เสริมว่า “นักแสดงทั้งสองเตรียมตัวกันอย่างมากเพื่อให้ดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยจริงๆ เพื่อสร้างบรรยากาศนั้น เราใช้ทั้งฉากหลัง อุปกรณ์ประกอบฉาก รวมถึงฟิลเตอร์ภาพเพื่อถ่ายทอดยุคนั้นออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและสมบูรณ์แบบ”

ประเด็นเรื่อง “ความน้อยใจ” เป็นธีมหนึ่งในเรื่อง และเมื่อถูกถามถึงสิ่งที่ตัวเองน้อยใจที่สุด คิมโกอึนก็เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ร่วมงานได้ เธอกล่าวว่า “ทุกคนก็ทำงานหนักเหมือนฉัน แต่ทำไมหน้าฉันถึงดูเหนื่อยอยู่คนเดียว? ทำไมผิวของพัคจีฮยอนยังดีอยู่ขนาดนั้น?”

ไม่นานหลังจากนั้น บทสนทนาก็เข้าสู่ประเด็นเรื่องความตายในเรื่อง ซึ่งทำให้คิมโกอึนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เธอเปิดใจว่า “ฉากที่ซังยอน (รับบทโดย พัคจีฮยอน) เลือกการจากไปอย่างสงบ มันกระทบใจฉันมากจริง ๆ มันเหมือนปุ่มกระตุ้นของฉันเลย ฉันคิดอยู่ตลอดว่าจะส่งซังยอนให้จากไปอย่างสงบได้อย่างไร”

ในประเด็นนี้ พัคจีฮยอนเล่าว่า “ฉันคิดถึงชีวิตและความตายอยู่มากตอนถ่ายทำ เพื่อจะสื่อสิ่งนั้นออกมา ฉันหันไปศึกษาจากหนังสือและสารคดีหลายเรื่อง ฉันกังวลว่าตัวเองจะสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์จริงได้หรือไม่ แต่คิมโกอึนให้คำแนะนำฉันไว้มากมาย ทำให้ฉันพยายามดื่มด่ำกับการแสดงให้ได้มากที่สุด”

เมื่อถูกถามถึงที่มาของชื่อเรื่อง ผู้กำกับโชตอบว่า “ผมตั้งชื่อเรื่องขึ้นมาโดยมุ่งที่ตัวละครหลักทั้งสอง มันเหมือนกับชื่อที่คลาสสิกอย่าง โรมิโอกับจูเลียต เพราะผมรู้สึกว่าความสัมพันธ์คือหัวใจของซีรีส์นี้ ผมจึงไม่สามารถคิดชื่ออื่นที่เหมาะไปกว่านี้ได้ เมื่อเปรียบเทียบกับคอนเทนต์ละครเรื่องอื่น ผมอยากเน้นให้เห็นว่าความสัมพันธ์ซับซ้อนนี้สำคัญ และยังสะท้อนว่าเมื่อเวลาผ่านไป เราก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเพื่อนคนอื่น ๆ”

ผู้กำกับยังพูดถึงเพลงประกอบ (OST) ว่าเป็นเพลงที่ฟังแล้วติดหูและเยียวยาจิตใจ เต็มไปด้วยแนวเพลงและอารมณ์ที่หลากหลายที่ผู้ชมไม่ควรพลาด “ศิลปินอย่างพอล คิม (Paul Kim) และนักร้องชั้นนำอีกหลายคนได้ช่วยสร้างอัลบั้มเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมอยากให้ทุกคนได้ลองฟังทั้งหมด”

ซีรีส์ You and Everything Else ซึ่งถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่เปราะบางและซับซ้อนตามวัย เตรียมออกอากาศในวันศุกร์ที่ 12 กันยายนนี้ ทาง Netflix

Leave a Reply