หลังจากจบการทำงานในซีรีส์ ‘Squid Game’ อย่างสมบูรณ์ ผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก (Hwang Dong Hyuk) ได้เปิดเผยความรู้สึกโล่งใจปนเศร้าเล็กน้อย
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรายหนึ่งที่ย่านซัมชองดง กรุงโซล ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ฮวังดงฮยอก ได้สะท้อนถึงการเดินทางตลอด 4 ปีที่ผ่านมาของ ‘Squid Game’ ว่า “รู้สึกทั้งสุขและเศร้าในเวลาเดียวกันครับ” เขากล่าวเสริมว่า “โปรเจกต์นี้ได้รับความรักอย่างล้นหลาม จนทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าผมจะมีโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้อีกมั้ย ผมรู้สึกทั้งโล่งอกและว่างเปล่าไปพร้อมกันครับ”
หลังความสำเร็จระดับโลกของสองซีซั่นแรก ซีซั่น 3 ก็ยังคงได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ โดยซีรีส์ได้สร้างกระแสที่ลึกซึ้งกว่าความตื่นเต้นในตอนแรก กลายเป็นประเด็นให้เกิดการวิเคราะห์และตีความเรื่องราวและตัวละครอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ซีซั่น 2 เป็นต้นมาซีรีส์เริ่มได้รับคำวิจารณ์อย่างหนัก แต่ ฮวังดงฮยอก มองว่าแม้แต่คำติชมก็สะท้อนถึงความนิยมของผลงาน
เขากล่าวว่า “ซีซั่น 1 ไม่มีใครคาดหวังอะไร มันกลายเป็นกระแสแบบไม่ทันตั้งตัว ดึงดูดทั้งแฟน ๆ ที่ชอบเกม คนที่อินกับการวิพากษ์สังคม และผู้ชมที่หลงรักตัวละคร พอเข้าสู่ซีซั่น 2 และ 3 ผมเริ่มรู้สึกถึงน้ำหนักของความคาดหวังเลยมีเสียงแบบ ‘เกมไม่น่าตื่นเต้นเท่าเดิม’ หรือ ‘ทำไมฆ่าตัวละครเร็วขนาดนั้น?’ ออกมาครับ”
เขากล่าวต่อว่า “การทำงานกับซีรีส์ยาว ๆ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนแฟน ๆ กลายเป็นตัวละครหลักแทน การรักษาซีรีส์ที่มีฐานแฟนเหนียวแน่นมันยากจริง ๆ ครับ เหมือนกับที่ ‘Game of Thrones’ โดนถล่มหนักในซีซั่นสุดท้าย มันทำให้ผมเห็นว่าพลังของแฟนด้อมสามารถทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ได้ครับ”
“ผมยอมรับความเห็นที่แตกต่าง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนี่คือซีรีส์ที่มีเรื่องราวสุดโต่ง แต่ผมยังคงทึ่งกับความรักที่ได้รับจากผู้ชมครับ ผมรู้สึกขอบคุณแม้กระทั่งคำวิจารณ์ ความผิดหวัง หรือความไม่พอใจ เพราะการที่มีการถกเถียงก็แปลว่าเรายังได้รับความสนใจอยู่ และนั่นก็คือความสุขรูปแบบหนึ่งครับ”
เมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวว่าตนเองรู้สึกว่า ‘Squid Game’ ซีซั่น 3 สนุกที่สุด ฮวังดงฮยอก ก็พยักหน้าเห็นด้วยว่า “จริง ๆ แล้ว ผมก็รู้สึกพึงพอใจกับซีซั่น 3 มากที่สุดเช่นกันครับ”
‘Squid Game’ ซีซั่น 3 เล่าเรื่องการกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง โดยมีตัวละครที่ต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น กีฮุน (รับบทโดย อีจองแจ) ที่ต้องสูญเสียเพื่อนสนิท, ฟรอนต์แมน (รับบทโดย อีบยองฮอน) ที่แฝงตัวกลับเข้าไปในเกม รวมถึงผู้เข้าแข่งขันที่รอดชีวิตจากเกมอันโหดร้าย ได้ออกอากาศเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา และขึ้นอันดับหนึ่งของรายการทีวีทั่วโลกบน Netflix ติดต่อกันสองวัน ยืนยันความสำเร็จอันสมศักดิ์ศรีของบทสรุปแห่งซีรีส์นี้
ที่มา sbsstar
