ซีรีส์เกาหลีย้อนยุคที่มีตัวเอกหญิงทรงพลัง
จากเล่ห์กลในวังหลวงไปจนถึงกลยุทธ์ในสนามรบ ซีรีส์ย้อนยุคของเกาหลีได้มอบหญิงสาวผู้ทรงพลังที่สุดให้กับวงการโทรทัศน์เกาหลี พวกเธอไม่ใช่
จากเล่ห์กลในวังหลวงไปจนถึงกลยุทธ์ในสนามรบ ซีรีส์ย้อนยุคของเกาหลีได้มอบหญิงสาวผู้ทรงพลังที่สุดให้กับวงการโทรทัศน์เกาหลี พวกเธอไม่ใช่
ผลงานแนวย้อนยุคเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ยังคงได้รับความนิยมมาโดยตลอดผู้ชมทั้งในและต่างประเทศต่างได้มีโอกาสรับชมเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และเห็นความเป็นอยู่ของผู้คนเกาหลีในอดีต หลายครั้งหลายหนในผลงานหลายเรื่อง เราจะพบว่ามักเป็นเรื่องราวที่อ้างอิงมาจากประวัติศาสตร์ ตัวละครอาจจะมีอยู่จริง แต่เรื่องราวถูกแต่งขึ้นใหม่ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า เรื่องไหนคือเรื่องจริง หรือ เรื่องไหนคือเรื่องแต่งขึ้น ลองมาวิเคราะห์ผ่านซีรีส์ย้อนยุคเกาหลี 5 เรื่องนี้กัน 1. “Queen Seondeok” (2009): เพิ่มความดราม่าให้กับชีวิตของพระมเหสีที่มีอยู่จริง Queen Seondeok ซีรีส์ยอดฮิตของช่อง MBC ออกอากาศเมื่อปี 2009 แสดงโดย อียอวอน (Lee Yo-won) รับบท พระมเหสีซอนด๊อก…
ละครเกาหลีทำให้เราได้รู้จักกับรัชทายาทหลายคนที่มีทั้งความฉลาด มีไหวพริบ และเป็นนักสู้ที่กล้าหาญและประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังแสดงอารมณ์ออกมาอย่างจริงใจ และไม่เขินอายในการที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริง นี่คือซีรี่ส์เกาหลีย้อนยุค 7 เรื่องที่มีองค์รัชทายาทที่ควรค่าแก่การรับชม The Red Sleeve ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเอกสารและบันทึกที่เขียนโดยกษัตริย์จองโจ ต่อพระสนมองค์โปรดของเขา ซองอึยบิน "The Red Sleeve" เป็นซีรี่ส์ที่บีบคั้นหัวใจและสวยงามแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด เรื่องราวขององค์รัชทายาทอีซาน (รับบทโดย อีจุนโฮ) ที่กำลังตกหลุมรักสาวใช้ในราชสำนักสาว นามว่าซองด็อกอิม (รับบทโดย อีเซยอง) อย่างสิ้นหวัง แต่เธอกลับพยายามหลีกเลี่ยงความรู้สึกนั่นและไม่รับรู้ถึงการจ้องมองด้วยความรักของเขาตลอดเวลา ซองด็อกอิมเป็นหญิงสาวที่รักตัวเองและรักอิสระ ซึ่งปฏิเสธคำขอร้องของอีซานที่จะขอให้เธอเป็นพระสนมของเขา แต่เมื่อเหตุการณ์และสถานการณ์นำไปสู่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้…
ตั้งแต่ซีรีส์ทางประวัติศาสตร์จนถึงซีรีส์แนวปัจจุบันต่างมีพล็อตที่นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชมและยังให้ข้อคิดตระหนักถึงเพศสภาพกับความคิดของผู้คนในสังคมนั้น ๆ ตั้งแต่วัยรุ่นสาวที่เลือกที่จะปกปิดตัวตนที่แท้จริงโดยการปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อให้ได้รับการจ้างงานไปจนถึงหญิงสาวที่ถูกบังคับให้ปลอมตัวเป็นกษัตริย์ การเปลี่ยนเพศมักจะส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่อันตราย, ความกระอักกระอ่วน, หรือไปจนถึงความขำขัน ซีรีส์เหล่านี้ได้เน้นประเด็นทางสังคมวัฒนธรรมหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทบาททางเพศและความเหลื่อมล้ำทางเพศ รวมถึงการพูดถึงประเด็นเรื่องเพศด้วย อย่างซีรีส์ที่กำลังออกอากาศอยู่เรื่อง “Our Blooming Youth” ได้รับคำชมจากเนื้อหาที่ให้ตัวละครหญิงมีบทนำ แจอี (รับบทโดยจอนโซนี) หญิงสาวสูงศักดิ์ที่มีความสามารถหลายอย่างแต่เพราะกฎสมัยโชซอนที่จำกัดไม่ให้ผู้หญิงทำนั่นทำนี่ แจอีเป็นทั้งนักสืบมือสมัครเล่น, นักดาบสุดเก่ง และนักธนูผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้เธอต้องมาลี้ภัยในพระราชวังในฐานะทหารและขันที แต่เธอไม่ได้เป็นหญิงสาวที่อยู่ในความทุกข์ แจอีปกปิดตัวตนที่แท้จริงไว้ และร่วมมือกับองค์รัชทายาทอีฮวาน (รับบทโดยพัคฮยองชิก) ถ้าคุณชอบเรื่อง "Our Blooming Youth" ซีรีส์ 6…
ฮงราอน (รับบทโดย คิมยูจอง) ปลอมตัวเป็นผู้ชาย เธอให้คำแนะนำผู้ชายเรื่องการออกเดท เนื่องจากจดหมายรักที่เธอเขียนให้ลูกค้า เธอจึงได้พบกับองค์รัชทายาท อียอง (รับบทโดย พัค โบกอม ) ฮงราอนไม่รู้ว่าเขาเป็นองค์รัชทายาท และอียอง ก็ไม่รู้ว่าฮงราอนเป็นผู้หญิง เขาสนใจในตัวฮงราอนจึงช่วยให้เธอมาเป็นขันที แต่องราอนพยายามที่จะหนีจากการเป็นขันทีให้ได้
ซีรีส์เกาหลีแนวประวัติศาสตร์ที่พูดถึงความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นความโรแมนติก, ครอบครัว หรือการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมการแสดงทางประวัติศาสตร์อธิบายเรื่องต่าง ๆ อย่างชัดเจนและสมจริง ผู้ชมพบว่าบางเรื่องมีเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน จากเรื่อง “Queen for Seven Days” ไปจนถึง “Love in the Moonlight” มาดูกันว่ามีเรื่องไหนกันบ้าง 1. “The Emperor: Owner of the Mask” ในช่วงราชวงศ์โชซอน กลุ่มพยอนซูคุกคามชีวิตพระราชโอรส กษัตริย์แลกเปลี่ยนการควบคุมการจ่ายน้ำของอาณาจักรเพื่อชีวิตลูกชาย องค์รัชทายาทอีซอน (รับบทโดยยูซึงโฮ)…
มาแค่ 2 ตอน แต่สนุกมากจนต้องรีเฟรชหน้าจอรัวๆ หา EP.3 ทันทีเลย กับรายการวาไรตี้มาใหม่ Young Actors' Retreat กับคอนเซปต์รวมตัวนักแสดงจากซีรีส์เรื่องดังที่แฟนๆคิดถึง 3 เรื่อง ได้แก่ Love in the Moonlight (2016), Itaewon Class (2020) และ The Sound of Magic (2022)ส่วนรูปแบบรายการก็ดีมาก ได้ทั้งความสนุก…