เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ซนเยจินปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในช่องยูทูบของจองแจฮยองชื่อ “Fairy Jae Hyung” โดยเธอได้พูดคุยอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังแต่งงาน
ในวันนั้น ซนเยจินพูดถึง Crash Landing on You ว่าเป็น “ผลงานที่ทำให้ได้หายใจโล่งอีกครั้ง”
เธอกล่าวต่อว่า “ฉันมีแฟนต่างชาติเพิ่มขึ้นเยอะมาก และได้รับความนิยมอย่างมหาศาล ในประเทศที่ไม่คุ้นเคย อย่างแคนาดา ออสเตรเลีย บราซิล ก็มีจดหมายแฟน ๆ ส่งมามากมาย”
ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานนี้ทำให้เธอได้พบกับคู่ชีวิตตลอดไป จึงไม่อาจเป็นผลงานอื่นใดได้เลยนอกจาก “ที่สุดของชีวิต”
ซนเยจินยิ้มพลางบอกว่า “พูดได้ว่ามันเป็นผลงานที่มีความหมายมากที่สุดในชีวิตฉัน เพราะได้เจอคู่ชีวิต”
จากนั้น จองแจฮยอง ถามตรง ๆ ว่า “แล้วตอนไหนล่ะที่ไฟรักในใจของเธอปะทุขึ้นมาเพราะฮยอนบิน? ตอนฉากร่มชูชีพตกลงมาหรือเปล่า? มันไม่เหมือนกับในละครเหรอ?”
ซนเยจินตอบพร้อมหัวเราะว่า “นักแสดงจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวชัดเจนค่ะ ไม่ได้คิดว่า ‘โอ้ รีจองฮยอกหล่อจัง’ เขา(ฮยอนบิน)เหมือนตัวละครเลย แต่เป็นเพราะตัวละครนั้นดูดีเองต่างหาก”
เธอเล่าต่อว่า “เราเป็นรุ่นเดียวกัน เดบิวต์ปีใกล้ ๆ กัน เป็นลูกคนสุดท้องเหมือนกัน อายุพ่อแม่ก็ใกล้กันมาก ตั้งแต่สมัยเดบิวต์ต่างก็เล่นเป็นพระเอกนางเอกเลยมีเรื่องที่เข้าใจกันได้เยอะ ถึงไม่พูดอะไรก็รู้สึกสบายใจ”
เกี่ยวกับการเจอฮยอนบินครั้งแรก เธอเล่าว่า “ตอนเล่นหนัง The Negotiation เราแทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะถ่ายกันคนละที่ และถ่ายไม่นาน แต่ตอนออกโปรโมตเดินสายงานแสดง พอได้นั่งรถบัสด้วยกันบ่อย ๆ ก็ได้คุยกันมากขึ้น ตอนนั้นฉันรู้สึกเลยว่า ‘เขาเป็นคนดี’ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ระหว่างถ่ายก็เห็นชัดว่าเขาไม่เสแสร้ง ไม่พยายามสร้างภาพ แต่เป็นตัวของตัวเอง และฉันชอบตรงนั้น”
จองแจฮยองถามต่อว่า “แล้วตกหลุมรักฮยอนบินตอนที่เท่าไรล่ะ?”
ซนเยจินตอบติดตลกว่า “สักตอนที่ 3 ได้มั้ง? แต่จริง ๆ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ มันค่อย ๆ สะสมจนกลายเป็นความรู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ”
เมื่อถูกถามกลับว่า “แล้วฮยอนบินล่ะ ตกหลุมรักคุณตอนไหน?” เธอคิดอยู่พักหนึ่งก่อนตอบแบบเขิน ๆ ว่า “เขาอาจจะไม่เคยตกหลุมรักฉันก็ได้นะคะ” ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ซนเยจินสรุปว่า “ละครจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่ในชีวิตจริงของฉันก็กลายเป็นแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนกัน นั่นคงเป็นเหตุผลที่ยังมีหลายคนคอยสนับสนุนเราจนถึงทุกวันนี้”
เมื่อมีลูกชาย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เธอยอมรับว่า
“การเลี้ยงลูกทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ตอนคบกันหรือแต่งงานใหม่ ๆ ฉันมักจะหาสูตรอาหารมาลองทำให้เขาทุกเมนู แต่ทุกวันนี้ ลูกมาก่อนเสมอ ฉันจะทำอาหารให้ลูกก่อน จากนั้นก็ยกยุกจอน (แพนเค้กเนื้อทอด) ที่เหลือให้สามี เขาก็จะหัวเราะแล้วพูดว่า ‘โอ้โห ฉันจำไม่ได้แล้วว่ากินนี่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่’”
ซนเยจินยังยอมรับถึงความยากลำบากที่คู่รักหลายคู่ต้องเจอว่า
“ฉันเคยได้ยินมาว่าคู่รักหลายคู่ทะเลาะกันเรื่องพวกนี้ สามีฉันอาจรู้สึกผิดหวังบ้าง แต่เขาไม่เคยแสดงออกเลย เขาแค่เข้าใจ และฉันก็ซาบซึ้งในสิ่งนั้นมาก”
เมื่อจองแจฮยองชมว่าลูกชายของพวกเขาหน้าตาดีเพราะได้ DNA จากทั้งคู่ที่สวยและหล่อ ซนเยจินก็หัวเราะตอบว่า
“ขอบคุณค่ะ” พร้อมเสริมว่า
“ปกติคนอื่นจะพูดว่า ‘อยากให้ลูกหน้าตาเหมือนพ่อ’ หรือ ‘อยากให้ลูกหน้าตาเหมือนแม่’ แต่ของเรานี่ เราพูดเหมือนกันทั้งคู่เลยว่า ‘อยากให้เขาหน้าเหมือนฉัน’”
ซนเยจินยังยอมรับว่าเธอไม่ใช่คนที่ชอบเด็กมาตั้งแต่แรก ทำให้การเป็นแม่กลายเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์สำหรับตัวเองมาก
“ฉันไม่ใช่คนที่เอ็นดูเด็ก ๆ อยู่แล้ว เวลาคุณแม่คนอื่นพูดว่า ‘สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือการมีลูก’ ฉันก็แค่คิดว่า ‘อ๋อ เหรอ’ แต่ไม่เคยเข้าใจจริง ๆ ฉันไม่ใช่คนที่รักเด็กเป็นธรรมชาติ แต่พอมีลูกของตัวเอง มันกลายเป็นสิ่งที่ฉันไม่ยอมแลกกับอะไรในโลกนี้ได้เลย ความรักที่รู้สึกมันเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไขจริง ๆ”
ที่มา chosun
เครดิตภาพช่องยูทป Fairy Jae Hyung